http://www.consumerprotection.or.th
สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 สิทธิและหน้าที่ของผู้บริโภค  เกี่ยวกับสมาคม  ผลการดำเนินงาน  สมัครสมาชิก  ติดต่อเรา
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   
การโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพทางสื่อออนไลน์
การใช้ยาอย่างสมเหตุผล
สาระน่ารู้เกี่ยวกับผู้บริโภค
ด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ
ด้านบริการทางการแพทย์
ด้านอสังหาริมทรัพย์
ด้านอื่น ๆ
บทความ
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง




 

เด็กไทยมีปัญหาเรื่องยาเสพติด-เพศสัมพันธ์"

เอแบคโพลล์" เผยผลสำรวจวันเยาวชนแห่งชาติ พบเด็กไทยกังวลปัญหายาเสพติดมากสุด ตามด้วยการมีเพศสัมพันธ์ คุณภาพการศึกษา ส่วนจุดเด่นเด็กไทย มีความกล้าหาญ กล้าแสดงออก หากมีโอกาสอยากร่วมพัฒนาประเทศ 

เมื่อวันที่ 20 ก.ย. น.ส.ปุณฑรีก์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ร่วมกับสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง "เสียงสะท้อนของเด็กและเยาวชนต่อผู้ใหญ่ในสังคม" เนื่องในวันเยาวชนแห่งชาติ กรณีศึกษาตัวอย่างผู้นำเด็กและเยาวชนจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,355 ตัวอย่าง

พบว่า ปัญหาด้านเด็กและเยาวชนที่รู้สึกกังวลอยู่ในขณะนี้ อันดับแรก ร้อยละ 83.7 คือ ปัญหายาเสพติด อันดับสอง ร้อยละ 72.1 ได้แก่ ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์ อันดับสาม ร้อยละ 69.4 ได้แก่ คุณภาพการศึกษา

อันดับสี่ ร้อยละ 65.8 ได้แก่ ความรุนแรงในเด็กและเยาวชน อันดับห้า ร้อยละ 63.5 ได้แก่ ปัญหาครอบครัว รองๆ ลงมา คือ ร้อยละ 60.2 ระบุการใช้เทคโนโลยี โซเชียลเน็ตเวิร์ก อาทิ ไลน์ เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ เป็นต้น ร้อยละ 57.9 ระบุคุณธรรมจริยธรรม ร้อยละ 47.9 ระบุวัฒนธรรมที่ดีงาม ร้อยละ 45.8 ระบุสาธารณสุข และร้อยละ 18.2 ระบุปัญหาอื่น ๆ อาทิ แก๊งมอเตอร์ไซค์ การทารุณกรรม การลักขโมย เป็นต้น 

สำหรับความพึงพอใจต่อการดูแลเอาใจใส่ปัญหาเด็กและเยาวชนของรัฐบาลชุดปัจจุบัน พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 42.6 มีความพึงพอใจอยู่ในระดับปานกลางต่อการดูแลเอาใจใส่ปัญหาเด็กและเยาวชนของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ในขณะที่ร้อยละ 25.8 ระบุพอใจมากถึงมากที่สุด และ ร้อยละ 31.6 ระบุพอใจน้อยถึงไม่พอใจเลย 

อย่างไรก็ตาม กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 45.8 ระบุว่าได้ยินหรือพบเห็นการออกมาถกเถียงกันด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชนน้อยถึงไม่เคยได้ยิน/ไม่เคยพบเห็นเลย ในขณะที่ร้อยละ 21.0 ได้ยินหรือพบเห็นบ่อยมากถึงมากที่สุด และร้อยละ 33.2 ได้ยินหรือพบเห็นปานกลาง และประเด็นที่น่าสนใจคือ บุคคลในสังคมที่เด็กและเยาวชนอยากให้เป็นแบบอย่างที่ดี อันดับแรก ร้อยละ 87.9 ได้แก่ นักการเมือง อันดับสอง ร้อยละ 80.1 ได้แก่ ครอบครัว อันดับสาม ร้อยละ 74.2 ได้แก่ ผู้ใหญ่ในสังคม และรอง ๆ ลงมา คือ ข้าราชการ บุคลากรที่โรงเรียน/ที่ทำงาน และผู้นำชุมชน ตามลำดับ

 

นอกจากนี้ ยังระบุว่า จุดเด่นของเด็กและเยาวชนไทยอันดับแรก หรือร้อยละ 30.0 คือ ความกล้าหาญ กล้าคิดกล้าทำ กล้าแสดงออก รองลงมา ร้อยละ 21.1 ระบุมีความสามัคคี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีความกตัญญู และมีจิตสาธารณะ ร้อยละ 16.7 ระบุมีความคิดสร้างสรรค์ ร้อยละ 16.6 ระบุความรู้ความสามารถ มีทักษะการเอาตัวรอดในสังคม    ร้อยละ 10.0 ระบุมีเครือข่ายเด็กและเยาวชนจำนวนมากที่เข้มแข็ง และร้อยละ 5.6 ระบุมีคุณธรรม จริยธรรม มารยาท สัมมาคารวะ และวัฒนธรรมที่ดีงาม 

ส่วนสิ่งที่กลุ่มผู้นำเด็กและเยาวชนอยากทำมากที่สุดในขณะนี้หากมีโอกาสในการเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ  พบว่า อันดับแรก ร้อยละ 25.5 ระบุอยากพัฒนาระบอบประชาธิปไตย/การเมืองไทย/การปฏิรูปกฎหมาย/ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน รองลงมา ร้อยละ 23.3 ระบุอยากพัฒนาคุณภาพการศึกษา และอันดับสาม ร้อยละ 20.2 ระบุอยากพัฒนาศักยภาพเด็ก เยาวชน และประชาชน ส่งเสริมการสร้างพื้นที่สร้างสรรค์ในการทำกิจกรรมร่วมกันของคนในชุมชน และการแสดงออกในด้านต่างๆ ตามลำดับ

น.ส.ปุณฑรีก์ กล่าวว่า ผู้ใหญ่ในสังคมควรให้ความสำคัญ ต่อการเคารพในตัวเองของเด็กและเยาวชน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แก่พวกเขาในการทำสาธารณประโยชน์แก่สังคม ใช้พลังแสดงออกในกิจกรรมที่สร้างสรรค์ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในการพัฒนาเด็กและเยาวชนในทุกด้านให้เท่าเทียมและทั่วถึง มิฉะนั้น อนาคตประเทศไทยจะตกอยู่ในสภาวะแนวโน้มที่น่าเป็นห่วงเพราะจะมีกำลังสำคัญด้านทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่าไม่มากเพียงพอ แล้ววงจรอุบาทว์ก็จะเกิดขึ้นซ้ำซาก ก็ต้องฝากเป็นโจทย์ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ให้ช่วยดูแลเอาใจใส่เสียงของเด็กและเยาวชนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง 

ขณะที่ นายนวกัณฑ์ อุบล ประธานสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันนี้สังคมไทยมักจะมีการพูดคุย ถกเถียงด้านลบของเด็กและเยาวชน ทำให้สถานการณ์ดูเลวร้ายเกินความจริง เป็นการบั่นทอนความตั้งใจในการทำความดีของพวกเขา เพราะยังมีเด็กและเยาวชนอีกจำนวนมากที่ร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้กับสังคม ภาครัฐควรยกเรื่องการพัฒนาเด็กและเยาวชนเป็นวาระแห่งชาติ เพราะการสร้างเด็กและเยาวชนในวันนี้ ก็เพื่อการสร้างอนาคตที่ดีของชาติในวันหน้า ต้องเน้นการพัฒนาอย่างทั่วถึงในทุกระดับ แก้ไขปัญหาให้ตรงจุด และประยุกต์ใช้กลไกที่หลากหลายพร้อมกับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนของสังคม นอกจากนี้ ฝ่ายการเมืองและผู้ใหญ่ในสังคมคือแบบอย่างที่เด็กและเยาวชนติดตามอยู่ ดังนั้นอนาคตของชาติจะเป็นอย่างไรก็มีส่วนมาจากพฤติกรรมของท่านในวันนี้เช่นเดียวกัน 

นายเสรีย์ วชิรถาวรชัย รองผู้อำนวยการสำนักงาน ส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชนผู้ด้อยโอกาสและผู้สูงอายุ (สท.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า ปัญหาเด็กและเยาวชนที่น่าเป็นห่วงในเวลานี้มีมากมาย ดังนั้น ในการแก้ปัญหาทุกหน่วยงานจากทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันทำงานอย่างบูรณาการ โดยเริ่มจากครอบครัวเป็นต้นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างวินัยเชิงบวก และการพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้เท่าเทียมและทั่วถึง เพื่อให้เด็กและเยาวชนสามารถดำรงตนอยู่ในสังคมได้อย่างมีคุณภาพและมีความสุข 

น.ส.อุษณี กังวารจิตต์ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและพิทักษ์เยาวชน สท. กล่าวว่า เด็กและเยาวชนเปี่ยมไปด้วยพลัง และความคิดสร้างสรรค์ที่จะพัฒนาตนเอง เพื่อนำศักยภาพและความสามารถไปพัฒนาและสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนของพวกเขา อย่างไรก็ตาม หน่วยงานภาครัฐและข้าราชการเองก็พยายามให้ความสำคัญในการพัฒนาเด็กและเยาวชนในทุกด้านโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน แต่สิ่งที่สำคัญคือตัวเด็กและเยาวชนต้องใส่ใจในการพัฒนาตนเองให้มากขึ้นทั้งในด้านความรู้ ทักษะการใช้ชีวิต การประกอบอาชีพ เทคโนโลยี การสื่อสารภาษาต่างประเทศ และการสร้างภูมิคุ้มกันทางด้านความคิด ในการดำรงชีวิตประจำวัน 

น.ส.ศรสวรรค์ โฮ ประธานคณะกรรมการลูกเสือเยาวชนภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก กล่าวว่า สิ่งที่เยาวชนต้องการคือการพัฒนาศักยภาพในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระบวนการคิดที่มีเหตุผล เนื่องจากเด็กและเยาวชนไทยมักจะเติบโตมากับกรอบค่านิยมและสังคมที่ผู้ใหญ่วางให้ ต้องคิดและทำไปแนวเดียวกับคนส่วนใหญ่ เมื่อคิดแตกต่างก็จะถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ผิด ส่งผลทำให้ไม่กล้าแสดงความคิดเห็น และไม่ค่อยยอมรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง หรือแสดงความคิดเห็นแต่ไม่สามารถให้เหตุผลได้ 

ดังนั้น ผู้ใหญ่ต้องชี้แนะและให้การสนับสนุนเด็กและเยาวชนได้พัฒนากระบวนการคิดของตนเอง เพื่อนำไปสู่การพัฒนาศักยภาพของตัวเองได้เต็มที่ ตลอดจนต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่เด็กและเยาวชน ตลอดจนให้การยอม เข้าใจ และสนับสนุนพวกเขาอย่างเต็มที่โดยเริ่มจากครอบครัว คนรอบข้าง สถานศึกษา ชุมชน สังคม ตลอดจนประเทศชาติ 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thaihealth.or.th/healthcontent/news/36598

Tags :

 
Menu
หน้าแรก
เครือข่ายผู้บริโภค
ศูนย์ราชการสะดวก
สื่อวิทยุสมาคม
ข่าวสาร
สรุปกิจกรรม 2566
สรุปกิจกรรม 2565
สรุปกิจกรรม 2564
สรุปกิจกรรม 2563
สรุปกิจกรรม 2561
สรุปกิจกรรม 2560
สรุปกิจกรรม 2559
สรุปกิจกรรม 2558
สรุปกิจกรรม 2557
สรุปกิจกรรม 2556
สรุปกิจกรรม 2555
สรุปกิจกรรม 2554
สรุปกิจกรรม 2553
สรุปกิจกรรม 2562
การร้องเรียน
ติดต่อเรา
แผนผังเว็บไซต์
สถิติเรื่องร้องเรียน
สมัครสมาชิก
เว็บบอร์ด
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 09/12/2010
ปรับปรุง 27/04/2024
สถิติผู้เข้าชม1,747,197
Page Views2,012,383
« May 2024»
SMTWTFS
   1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
view